เอกชนเผยน้ำท่วมแม่สอดรถยนต์นำเข้ามือสองจากญี่ปุ่นจมน้ำกว่า 3 พันคัน เสียหายพันล้านบาท

วันนี้( 2  ส.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ แม่น้ำเมยล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมตลาดริมเมย-ท่าเรือขนส่งสินค้า กว่า 20 แห่ง และโกดังสินค้าริมน้ำ ย่านธุรกิจการค้า บ้านเรือนราษฎรและสถานที่ราชการ ตามริมแม่น้ำเมยชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก  ล่าสุดระดับน้ำได้ลดลงเป็นปกติ แต่สิ่งที่ได้พบและได้รับความเสียหายกับนักธุรกิจค้ารถมือสองซึ่งเป็นรถถ่าย ลำจากประเทศญี่ปุ่น ที่เตรียมส่งออกไปประเทศพม่า และจอดรอเตรียมการขนส่งจากท่าเรือริมแม่น้ำเมยฝั่งไทยปรากฏว่ารถยนต์มือสอง ญี่ปุ่นกว่า 3,000 คัน ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด สร้างความเสียหายให้กับนักธุรกิจพม่าและนักธุรกิจไทย ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้รถยนต์นำเข้าแต่ละคันมีมูลค่าคันละเฉลี่ยไม่น้อย กว่า 150,000 บาท โดยรถที่ถูกน้ำท่วมครั้งนี้บางคันพอจะซ่อมแซมได้แต่บางคัน ไม่สามารถซ่อมแซมได้แล้ว  นอกจากนี้ยังพบว่ามีรถยนต์อีกนับร้อยคันถูกกระแสน้ำเมยที่ไหลรุนแรงในช่วงฝน ตกหนักน้ำไหลหลากพัดพารถจมหายไปกับสายน้ำในช่วงระดับน้ำขึ้นสูงเข้าท่วม จนเกือบมิดหลังคาตลาดริมเมย  ขณะที่รถจักรยานมือสองจากญี่ปุ่นที่จอดอยู่ตามท่าเรือ จำนวนนับแสนคันได้รับความเสียหายและถูกกระแสน้ำพักหายไปในแม่น้ำเมยนับหมื่น คันเช่นกัน

ด้านนักธุรกิจชาวพม่าที่ประกอบการค้ารถยนต์มือสองจาก ญี่ปุ่นรายหนึ่ง กล่าวว่า อุทกภัยน้ำท่วมใหญ่แม่สอด-เมียวดีครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุด มีนักธุรกิจพม่าและนักธูรกิจค้ารถมือสองได้รับความเสียหายมาก  ในส่วนของเขานั้นไดเสั่งซื้อและเตรียมขนถ่ายเข้าพม่าไม่น้อยกว่า 200 คัน เสียหายทั้งหมดและบางคันจมน้ำหายไปในช่วงน้ำท่วมสูงถูกกระแสน้ำพัดพาหายไป มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท รวมทั้งหมดแล้วนับพันล้านบาท

นัก ธุรกิจชาวพม่ารายนี้ กล่าวอีกว่า การค้าและสั่งซื้อรถจากญี่ปุ่นของชาวพม่าสร้างมูลค่ามหาศาลต่อปีหลังรัฐบาล ได้เปิดโอกาสโดยการอนุญาตให้ประชาชนที่มีรถ ทั้งรถยนต์-รถบรรทุก และรถจักรยานยนต์ หรือรถนานาชนิดไปจดทะเบียนได้ ทำให้มีชาวพม่าสั่งซื้อรถมือสองนำเข้าแบบถ่ายลำจากญี่ปุ่นผ่านไทยส่งต่อไป พม่า ทำให้มีการสั่งซื้อ และนำรถมาเทียบจอดที่ท่าเรือเพื่อรอการส่งข้ามแม่น้ำเมยเข้าพม่า แต่เมื่อเกิดอุทกภัยใหญ่ครั้งนี้ ทำให้พ่อค้าได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าเป็นพันๆล้านบาท นับว่าเสียหายมากสุด เท่าที่เคยประสบพบเห็นมา บางรายถึงกับหมดตัว

 

แหล่งข่าวจาก posttoday…