ความนิยมในการฉีดโบท๊อกเป็นอันดับหนึ่งของเทคนิคความงามโดยไม่ต้องผ่าตัด

สำหรับผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าเหลี่ยมจะมีลักษณะกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกรที่ใหญ่กว่าปกติ มักพบในคนที่นอนกัดฟัน สบฟันไม่สนิท หรือการเคี้ยวอาหารที่มีความเหนียวอย่างปลาหมึก หรือหมากฝรั่งมากๆก็เป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้อบริเวณมุมกรามหรือขากรรไกรมีการพัฒนาให้หนานูนมากกว่าปกติ หรือบางรายอาจเป็นโดยกำเนิด เมื่อสังเกตบริเวณใบหน้าจะพบว่าคางเป็นเหลี่ยมชัดเจน หากลองกัดฟันจะเห็นลำของกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกรทั้งสองข้างชัดเจนกว่าคนปกติ การฉีดโบท๊อกทำให้ใบหน้าเหลี่ยมดูเรียวเล็กลงได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงเหมือนการผ่าตัดกราม

เพราะโบท๊อกจะออกฤทธิ์โดยการคลายกล้ามเนื้อและช่วยลดการทำงานกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร ความหนานูนของกล้ามเนื้อบริเวณมุมกรามจึงลดลง ทำให้รูปหน้าดูเรียวเล็กลงได้ ซึ่งจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์ และออกฤทธิ์เต็มที่ช่วง 2-3 เดือนหลังการฉีด ซึ่งผลการรักษาแต่ละครั้งจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละคน การนิยมฉีดโบท๊อกนั้นสามารถฉีดเติมเพื่อลดริ้วรอยก็ได้ แต่หลักการของมันจริงๆแล้วคือการฉีดเพื่อที่จะแก้ไขกล้ามเนื้อที่ใบหน้าของเรา บางคนที่ทานมากหรือใช้กล้ามเนื้อในการบดเคียวมากก็จะทำให้รูปหน้านั้นเปลี่ยนไป ดังนั้นการฉีดโบท๊อกนั้นจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่หน้าเรานั้นหดกลับและเข้ารูปได้ การฉีดโบท๊อกนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายถึง 70 ประเทศทั่วโลก

อีกทั้งยังได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของเทคนิคความงามโดยไม่ต้องผ่าตัด และจัดเป็นสารที่ใช้แก้ไขปัญหารูปหน้าโดยไม่พึ่งศัลยกรรมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากโบท๊อกเป็นสารพิษที่ที่มีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง แล้วก็ฝ่อ แต่มีผลไม่ถาวร เนื่องจากพอมันหมดฤทธิ์แล้ว กล้ามเนื้อก็จะค่อยๆกลับมาทำงานเหมือนเดิม ปกติก็ประมา 3-6 เดือนก็ต้องเติมยา การฉีดนั้นสามารถฉีดโบท๊อกได้หลายจุดในร่างกายเรา ส่วนเรื่องผลข้างเคียงคือ หน้าเบี้ยว ตาตก อันนี้เกิดได้ซึ่งขึ้นกับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญฉีดให้ แล้วการปฏิบัติตัวหลังฉีดไม่ถูกต้อง