พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า กทค.ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ในการขอเปิดใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ที่เหลืออยู่จำนวน 25 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อนำไปพัฒนาสู่การให้บริการเทคโนโลยี 4จี แอลทีอี
ทั้งนี้ คลื่นความถี่ 25 เมกะเฮิรตซ์ดังกล่าว เป็นเรื่องของดีแทคกับบริษัท กสท โทรคมนาคม เจ้าของสัมปทาน หากดีแทคต้องการคืนมาที่ กทค.เพื่อเปิดประมูล ต้องได้รับความยินยอมจาก กสทฯ ก่อน จึงไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ดีแทคเสนอมา
นอกจากนี้ การที่ดีแทคอ้างว่าจะนำไปพัฒนาสู่ 4จี นั้น กทค.เห็นว่าดีแทคสามารถพัฒนา 4จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ที่ได้รับใบอนุญาตจาก กทค.ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 25 เมกะเฮิรตซ์ ที่ติดสัญญาสัมปทานอยู่
ขณะเดียวกัน กทค.อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการประมูลคลื่นความถี่แบบแพ็กเกจ คือ 1800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องแยกประมูล เพราะการรวมคลื่นความถี่ทั้งสองย่านเข้าด้วยกันเป็นเทคโนโลยีใหม่ทัดเทียม กับต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จึงเป็นไปได้ที่จะใช้รูปแบบการประมูลดังกล่าว ซึ่งจะทำให้สนใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตามสัญญาสัมปทานสร้าง โอน ให้บริการ (บีทีโอ) ดีแทคได้รับสิทธิบริหารคลื่นความถี่จำนวน 50 เมกะเฮิรตซ์ แต่ใช้งานเพียง 25 เมกะเฮิรตซ์ เนื่องจากสัญญาระบุว่า หากคลื่นเดิมใช้งานไม่ถึง 80% จะไม่สามารถใช้งานอีก 25 เมกะเฮิรตซ์ได้ คลื่นความถี่ดังกล่าวจึงไม่ถูกใช้งาน
ขณะที่ผลการประชุมบอร์ดวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับทราบรายงานผลการศึกษาการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม กรณีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ และหากบริษัทมีลักษณะที่จัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคมด้วยการให้บุคคลอื่นเช่า จะต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544
นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ เรื่อง แผนเลขหมายโทรคมนาคม โดยปรับปรุงแผนเลขหมายปัจจุบันให้มีความทันสมัยขึ้น และรองรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมในอนาคต
แหล่งข่าวจาก posttoday…