ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานฐานะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของ ณ วันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า อยู่ที่ระดับ 1.689 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.474 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,186 ล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนี้ที่เคลื่อนไหวที่ระดับ 31.86 บาท/เหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าทุนสำรองฯอยู่ที่ 1.688 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.416 ล้านล้านบาท
ด้านฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ (Forward) อยู่ที่ระดับ 2.22 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศสุทธิ ซึ่งรวมทุนสำรองฯ ในปัจจุบันและ Forward แล้วอยู่ที่ระดับ 1.911 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ คาดว่าสาเหตุที่ทุนสำรองฯเพิ่มน้อย เป็นผลจากราคาทองคำที่สูงขึ้นมากในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้เมื่อตีมูลค่าสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศและทองคำแล้วเพิ่มไม่ มาก บวกกับธปท.เองก็พยามดำเนินนโยบายปล่อยค่าเงินบาทตามกลไกตลาด มีการแทรกแซงน้อยลง อย่างไรก็ตาม ธปท.จะเข้าแทรกแซงบ้างเฉพาะที่ค่าเงินผันผวนมาก สอดคล้องกับความเห็นของ นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท. ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ธปท.จะไม่อุ้มค่าเงินจนภาคธุรกิจไม่ปรับตัว แต่ในยามที่ผันผวนมากก็คงยังปล่อยมือไม่ได้
นักค้าเงินธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทในวันนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน ช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 31.65 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แต่ในช่วงบ่ายกลับอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 31.86 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยปรับอ่อนค่าเนื่องจากเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี เงินบาทยังอ่อนค่าไปในทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค
สำหรับฐานเงินหรือเงินสดหมุนเวียนในมือภาคเอกชนและเงินฝากของสถาบันการ เงินที่ ธปท. ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.37 ล้านล้านบาท ลดลงจาก 1.40 ล้านล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้า สะท้อนความต้องการถือสภาพคล่องเงินสดเพื่อการใช้จ่ายที่ลดลง
แหล่งข่าวจาก posttoday…